คุณตอบได้มั้ยว่า อาหาร 5 หมู่ คืออะไร?
แน่นอนว่าทุกคนคงตอบได้ว่า อาหาร 5 หมู่คือ Carbohydrate, Protein, ไขมัน เกลือแร่หรือแร่ธาตุ และวิตามิน จริงๆแล้วยังมีกากใยไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารและน้ำด้วยเช่นกัน ทั้งๆที่ทุกคนตอบได้ว่าวิตามินเป็น 1 ใน อาหาร 5 หมู่ แต่เรามักรู้สึกกลัวว่าการทานวิตามินเสริมเป็นอันตรายต่อตับไตและร่างกาย ทำไมกันล่ะ?
ร่างกายของคนเรามีสารต่างๆ ประกอบอยู่ในร่างกาย การได้รับวิตามินอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะวิตามินเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในระบบการทำงานต่างๆของร่างกายอย่างลึกซึ้งถึงระดับเซลล์ ร่างกายของเราต้องการและ “รู้จัก” วิตามินสำหรับการทำงานอยู่แล้ว จึงไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของตับและไต หากขาดวิตามินเมื่อไหร่ ร่างกายจะแสดงความผิดปกติออกมาให้เห็นทันที
แตกต่างกับ “ยา”
ยา คือสิ่งที่ร่างกายไม่มีส่วนใหญ่ถูกผลิตและสังเคราะห์ขึ้นมาจากกระบวนการทางเคมี ร่างกายเราไม่สามารถผลิตยาเองได้ ยาจึงไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นและพือเป็นสิ่งแปลกปลอมในภาวะร่างกายปกติ ซึ่งตับต้องทำการ “ขจัด” หรือ detox ยาที่เป็นสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย และเป็นการเพิ่มภาระหรือโหลดให้กับตับ ดังนั้นหากใช้ “ยา” ติดต่อกันเป็นประจำจึงส่งผลเสียต่อตับและไตได้
วิตามินแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม
คือ วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 7 บี 9 บี 12 และวิตามินซี และส่วนที่เหลือจากการดูดซึมไปใช้งาน ก็จะถูกขับออกทางไตผ่านการปัสสาวะนั่นเอง วิตามินชนิดที่ละลายในน้ำจึงมีโอกาสสะสมในร่างกายน้อยมากๆ และไม่ค่อยมีผลข้างเคียง
วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค ซึ่งจะละลายได้ในไขมันเพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ หากได้รับวิตามินเหล่านี้มากเกินไปอาจเก็บสะสมไว้ในร่างกาย
แล้วเราควรกินผักผลไม้เท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการล่ะ?
มีคำแนะนำว่าเราควรกินผักผลไม้สดหลากสีให้ได้ 400 gram ต่อวัน ในความเป็นจริงแล้วเราต่างใช้ชีวิตในยุคเร่งรีบ กินแต่ junk food หรือ processed food ที่นอกจากจะได้คุณค่าทางอาหารน้อยแล้ว วิตามินยังถูกทำลายไปจนแทบไม่เหลือ หรือหากเราสามารถกินผลไม้ที่หลากหลายในปริมาณมาก เราก็อาจได้รับน้ำตาลผลไม้ในปริมาณสูงเกินความต้องการของร่างกาย กลายเป็นมีโทษมากกว่าประโยชน์ซะอีก!
ที่สำคัญ คุณรู้หรือไม่ว่าร่างกายเราแต่ละคน ต่างก็มีความต้องการวิตามินในปริมาณที่แตกต่างกัน เนื่องจากยีนที่ไม่เหมือนกัน สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทำให้ความต้องการใช้วิตามินแตกต่างกันไปด้วย เราสามารถตรวจเลือด เพื่อเช็คระดับวิตามินเพื่อเสริมวิตามินต่างๆได้ หากคุณทำความรู้จักกับร่างกายของตัวเอง คุณจะสามารถเข้าใจและเสริมความต้องการวิตามินได้ตามที่ร่างกายต้องการอย่างแท้จริง
