
ได้ทานของหวานๆ ทีไรก็มีแรงฮึดสู้ทุกที แถมอร่อยทุกเมนู บิงซู ชาไข่มุก โค้กซ่าๆ เยียวยาจิตใจได้ตลอด จะให้เลิกก็คงยาก แต่หนักหวานเกินไปทั้งวันขนาดนี้ ก็กลัวน้ำตาลในเลือดสูงปรี๊ด! มาทำความรู้จักและแบ่งสัดส่วนอาหาร ให้ทานอย่างไรเราถึง ‘เบา’ ‘หวาน’ ลงได้บ้าง? ที่ไธรฟ์ เวลเนส คลินิก นำมาฝากกันนะคะ
ชวนรู้จัก เบาหวาน
เบาหวาน คือโรคที่ทั่วโลกให้ความสำคัญค่ะ เพราะมีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทยเองมีผู้เสียชีวิตทุกๆ 1 ชั่วโมง ถึง 37 รายเลยล่ะค่ะ นั่นก็เพราะโรคเบาหวานเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารและด้วยปัจจุบันที่ขนมหวานสามารถหาทานง่ายและหลากหลายขึ้น จึงส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายนั่นเองค่ะ
โรคเบาหวานคืออะไร?
โรคเบาหวาน (Diabetes mellitus) คือ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังแต่สามารถส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมได้ เป็นภาวะที่มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงกว่าปกติ ซ้ำยังตับอ่อนทำงานผิดปกติฮอร์โมนอินซูลินบกพร่อง ทำให้ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้นั่นเอง
เพราะหนักหวานมากไป อินซูลินเลยสู้ไม่ไหว
ฮอร์โมนอินซูลินมีระดับการทำงานขนาดต่ำๆ อยู่แล้วค่ะ ลองเทียบดูว่าหากใน 1 วัน เราทานน้ำตาลน้ำตาลเกินกว่า 4 ช้อนชาต่อวัน หรือเท่ากับ นมเปรี้ยว 1 ขวดเล็ก (สำหรับช่วงวัย 25-60 ปี) จากที่ควรทำงานได้อย่างสมประสิทธิภาพก็ลดลง จนเกิดการสะสมภาวะระดับน้ำตาลมากยิ่งขึ้นเมื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงานไม่ทันก็ถูกขับออกผ่านปัสสาวะ ซึ่งของเหลวนี้ก็ยังคงมีน้ำตาลคั่งค้างอยู่อย่างที่เราได้รู้จากการมีมดมาตอมนั่นเองค่ะ
7 สัญญาณเตือนเราเสี่ยงเป็นเบาหวาน
อ่อนเพลียง่าย ทั้งที่พักผ่อนเพียงพอ
ผอมลงแบบไม่มีสาเหตุ ทั้งๆ ที่ หิวบ่อย กินเท่าเดิม
สายตาพร่ามัว
แผลหายช้า ไม่แห้งสนิท หรือตกสะเก็ดช้า
ชาปลายมือ ปลายเท้า
มีอาการคันตามตัวหรือที่อวัยวะเพศ มีตกขาวร่วมด้วย
หิวน้ำบ่อยและปัสสาวะเยอะผิดปกติ
ถึงไม่อ้วน ไม่ทานหวานก็เสี่ยงเป็นได้ เพราะโรคเบาหวานมีหลายชนิด
ชนิดที่ 1
พบในช่วงวัยเด็ก - 30 ปี
เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้
มักมีรูปร่างซูบผอม
ชนิดที่ 2
พบมากในผู้ที่มีรูปร่างอ้วน น้ำหนักเกินมาตรฐาน
คนไทยป่วยชนิดนี้มากที่สุด
เกิดจากร่างกายดื้ออินซูลิน อินซูลินไม่เพียงพอต่อการทำงาน
โรคเบาหวานชนิดอื่นๆ
เกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์
การติดต่อทางพันธุกรรม
ผู้ที่เป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ขณะตั้งครรภ์ร่างกายจะผลิตสารต่อต้านอินซูลินเกิดขึ้น
เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ คลอดก่อนกำหนด ภาวะน้ำตาลต่ำหลังคลอด
มักเกิดในผู้ที่ไม่มีประวัติเกิดโรคเบาหวาน
แค่ปรับและเปลี่ยนก็ป้องกันโรคเบาหวานได้
หลีกเลี่ยงอาหารทอด
ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ฮอร์โมนอินซูลินทำงานเป็นปกติ
ทานเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ โปรตีนจากพืช เช่น ปลา อกไก่ เต้าหู้
เน้นทานผัก ธัญพืช ผลไม้ นมจืดไขมันต่ำ
จำกัดอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบมาก
ลดอาหารแปรรูป สำเร็จรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน อาหารแช่แข็ง
หลีกเลี่ยงน้ำตาลเทียม เพราะทำให้อยากหวานมากขึ้น
ความน่ากลัวของโรคเบาหวานคือมักไม่มีอาการเตือนค่ะ เมื่อรู้สึกร่างกายเริ่มผิดปกตินั่นก็เป็นเพราะได้เข้าใกล้โรคเบาหวานไปเสียแล้ว และเมื่อได้เป็นโรคเบาหวาน ปัจจุบันก็ยังไม่มีการรักษาให้หายขาดได้ วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดจึงควรตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจระดับน้ำตาล เช็กความสมดุลฮอร์โมนตั้งแต่เนิ่นๆ เท่านั้นค่ะ
ป้องกันเบาหวาน ด้วยการตรวจหาอินซูลิน
อย่าปล่อยให้น้ำตาลในเลือดขึ้นสูง อินซูลินหยุดทำงานแล้วค่อยหาทางแก้ เพราะนั่นอาจจะสายเกินไปค่ะ ไธรฟ์ เวลเนส คลินิก ขอแนะนำ แพ็กเกจการตรวจหาฮอร์โมนอินซูลินในร่างกาย เช็กสมดุลมากน้อยแค่ไหน ร่างกายจะยังเปลี่ยนน้ำตาลไปเป็นพลังงานได้ดีอยู่หรือไม่ ผ่าน Thrive Healthy Balance
Thrive Healthy Balance จะทำให้คุณได้ทราบถึง
ฮอร์โมนอินซูลิน
ตรวจระดับวิตามิน (Vitamin D3)
ตรวจระดับฮอร์โมนพื้นฐาน
ตรวจเลือด
ตรวจวัดระดับการอักเสบภายในร่างกาย
การทำงานของเม็ดเลือดแดง
การทำงานของปลายประสาท
สารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย รวมกว่า 10 ชนิด
