top of page

Thrive Wellness Clinic

  • Facebook
  • YouTube
  • Instagram

ชั้น2 เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา 
Opening Hours เวลาเปิดทำการ 10:00 -19:30 

thrive-clinic.png

5 พฤติกรรมเสี่ยงทำลายตับ

ตับ คืออวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญ ได้แก่ ช่วยขจัดสารพิษ ผลิตน้ำย่อยอาหารประเภทโปรตีน และผลิตสารสำคัญอีกหลายชนิด เราจึงอยากให้คุณหันมาให้ความสนใจอวัยวะที่ชื่อว่า “ตับ” กันหน่อยค่ะ



1. พฤติกรรมดื่มหนัก

แม้ว่าการดื่มอาจจะทำให้งานสังสรรค์สนุกขึ้น แต่การดื่มหนัก ดื่มเยอะ ดื่มติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุหลักของการทำลายตับเลยนะคะ การที่ตับเจอกับแอลลกอฮอล์มากๆ จะนำไปสู่อาการไวรัสตับอักเสบ โรคไขมันพอกตับ และอาการตับแข็ง ตับต้องทำงานหนักมากเกินไปเพื่อขับแอลกอฮอลออกจากร่างกายค่ะ


2. การทานอาหารขยะ (Junk food)

การรับประทานอาหารไม่มีคุณภาพ อาหาร ๋Junk food, อาหารที่มีสารเคมีตกค้าง ส่งผลโดยตรงต่อการทำงานของตับแน่นอนค่ะ รวมถึงอาหารประเภทแป้ง ขนม หรือของหวานๆ เมื่อได้รับติดต่อกันนานๆ อาจนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล (non-alcoholic fatty liver disease: NAFLD) ได้เช่นกันค่ะ


3. ทานยามากเกินไป

ทานยามาก หากเกิดการใช้ยาเกินความจำเป็น ส่งผลทำให้ตับทำงานหนักกว่าปกติ และที่ควรระวังเรื่องการใช้ยา เพราะยาจำเป็นบางชนิดมีผลข้างเคียงต่อตับ โดยเฉพาะพาราเซตามอล และยารักษามะเร็งส่วนใหญ่ สารสังเคราะห์หลายชนิดในยาอาจกลายเป็นพิษต่อตับ ดังนั้นไม่แนะนำให้ซื้อยารับประทานเองนะคะ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้งค่ะ


4. สูบบุหรี่จัด

การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายปอด ทำให้ผิวเหี่ยวแล้ว การสูบบุหรี่ยังมีผลต่อตับมากๆเลยค่ะ โดยสารที่ปะปนอยู่ในควันบุหรี่จะเข้าสู่ตับ ทำให้ตับทำงานหนักขึ้น และนำไปสู่การกีดขวางระบบการทำงานของร่างกายโดยรวมอีกด้วยค่ะ


5. พักผ่อนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดภาวะ oxidative stress หรือระดับของสารอนุมูลอิสระเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่อาการป่วยที่เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญของร่างกายค่ะ หากเรามีพฤติกรรมนอนไม่พอติดต่อกันนานๆ จะทำให้เสี่ยงต่ออาการป่วยต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง ไปจนถึงอาการต้านทานต่อฮอร์โมนอินซูลินที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง (insulin resistance: IR)




รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมหันมาใส่ใจกับการดูแลตับด้วยนะคะ

bottom of page