1 นาที
อัพเดตเมื่อ: 12 เม.ย. 2023
เคยลองสังเกตไหมคะ วันไหนที่รู้สึกสมองตื้อๆ ไม่ตื่นตัว อ่อนเพลีย รู้สึกไม่อยากทานอะไรเลย แต่พอนึกถึงเมนูส้มตำ ก็อดใจไม่ไหว เจริญอาหารทันที แถมยังรู้สึกกระปรี้กระเปร่า โล่งคอ นั่นเป็นเพราะส้มตำ มีพริกเพิ่มความแซ่บ ช่วยหลั่งสารให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย มีความสุข อยากอาหาร บรรเทาปวดได้นั่นเอง
ความเผ็ด แซ่บ ของพริก
กับประโยชน์ที่ช่วยลดน้ำหนัก อารณ์ดี ไกลโรคร้าย
เกิดขึ้นได้อย่างไร
พริก (Chili) จะมีสารที่ชื่อว่า แคปไซซิน (Capsaicin) สารชนิดนี้เองค่ะ ที่ทำให้พริกมีความเผ็ด แสบ จนต้องร้องไห้ และยังทนต่อความร้อน ความเย็นทำให้ไม่สูญเสียความเผ็ดไป ซึ่งจะมีมากสุดบริเวณแกนกลางสีขาว ส่วนเปลือกและเมล็ดจะมีน้อยกว่า
พริกมีด้วยกันหลายสายพันธุ์ ในไทยเองถือได้ว่าเป็นพริกที่มีความเผ็ดอยู่สูง ซึ่งเรียงลำดับได้ตามนี้ค่ะ พริกขี้หนู > พริกเหลือง > พริกชี้ฟ้า > พริกหยวก > พริกหวาน เป็นต้น พริกเหล่านี้ได้รับความนิยมในการนำประกอบอาหารสำคัญเกือบทุกเมนูของไทย
รู้หรือไม่คะว่า ในพริกอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล็ก ใยอาหาร เป็นต้น ซึ่งเป็นเหล่าสารอาหารที่ดีต่อกลไกร่างกายพื้นฐานหลายอย่าง เช่น สารสื่อประสาทในสมอง ระบบหมุนเวียนโลหิต การสร้างกล้ามเนื้อ สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
ในพริกที่อุดมไปด้วยสารแคปไซซิน จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลาย กระตุ้นปลายประสาทของสมองส่วนกลางรับรู้และอยากอาหารมากขึ้น และยังหลั่งสาร Endorphin ที่ทำให้รู้สึกอาหารอร่อย หากใครที่อยู่ในช่วงเบื่ออาหาร การเลือกทานเมนูเผ็ดๆ ก็ช่วยให้คุณทานได้ดีขึ้นนะคะ
ทุกครั้งที่ทานเผ็ดเราจะรับรู้ได้ถึงความร้อนในร่างกาย เพราะว่าในพริกยังมีสาร Thermogenic ที่ช่วยก่อความร้อนนั่นเองค่ะ ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดี ดีต่อระบบย่อยอาหาร เสริมการ Detox ของร่างกาย และยังมีกรดคอร์บิก ที่ช่วยเบิร์นเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นพลังงาน จึงช่วยให้น้ำหนักคุณลดลงได้
ในสารแคปไซซิน ยังยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือด ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยละลายลิ่มเลือดไม่ให้เกาะตัวเป็นก้อนและเกิดการอุดตัน ลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในหลอดเลือด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และยังเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง ขยายเส้นเลือดในลำไส้และกระเพาะอาหาร ทำให้เพิ่มการดูดวึมได้ดีขึ้น
ทานเผ็ดทีไร น้ำมูกไหลทุกที เพราะสาร Thermogenic กระตุ้นให้เรามีน้ำมูก น้ำตา ลดสิ่งกีดขวางในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้จมูก คอ โล่ง เสมหะน้อยลง ที่ดีต่ออาการคัดจมูก ไข้หวัด ไซนัส โรคภูมิแพ้
เพราะมีมีวิตามินเอ และวิตามินซีสูงมาก แถมยังมีเบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดีต่อการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดการกลายพันธุ์ของเซลล์ร้าย เช่น เซลล์มะเร็ง ยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน สาเหตุของสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร และฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ป้องกันการติดเชื้อในจมูก ลำคอ ปอด ช่องปาก และวิตามินเหล่านี้ยังช่วยบำรุงจอประสาทตา เสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยของผิว
สารแคปไซซิน ช่วยกระตุ้นการหลั่งของสาร Endorphin ที่ช่วยลดความเครียด ผ่อนคลาย ความดันโลหิตลดลง และยังบรรเทาอาการเจ็บปวด นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 6 ธาตุเหล็ก ที่ดีต่อการทำงานของสมอง สารสื่อประสาท Serotonin ที่ช่วยให้อารมณ์ดี ลดซึมเศร้า ช่วยให้เลือดไหลเวียนในสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พริกมีสารที่ช่วยยับยั้งการดูดซึมของน้ำตาลกลูโคส ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และยังช่วยลดระดับอินซูลิน ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
หากนึกเมนูอาหารเย็นนี้ไม่ออก ลองเลือกเมนูส้มตำ ผัดพริกแกง ผัดกะเพรา ต้มยำ พริกหยวกทอด กุ้งคั่วพริกเกลือ น้ำพริก เมนูเผ็ดๆ ที่อุดมไปด้วยพริก ดีต่อสุขภาพกันได้นะคะ
แต่หากท่านไหนไม่ชอบทานเผ็ด แต่อยากสุขภาพดี ก็สามารถเพิ่มทางเลือกโดยการรับประทานผักและผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม เหล็ก หรือเลือกทานวิตามินเสริมเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนในแต่ละวันได้เช่นกัน
ไธรฟ์ เวลเนส คลินิก มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องวิตามินและแร่ธาตุเฉพาะบุคคล จากสูตรที่คุณหมอด้าน Ati-Aging ออกแบบสูตร Vitamin Supplement และ IV Drip Vitamin มาโดยเฉพาะ เพื่อให้เหมาะสำหรับท่านใดที่ไม่สามารถทานอาหารได้ ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก