คลิกเลือกอ่านเนื้อหาที่สนใจ
...
รู้ไหมว่าในสับปะรดก็มีเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารมื้อหนักๆ จากปิ้งย่าง หมูกะทะ อยู่ด้วย อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย “โบรมีเลน” ที่มีอยู่ในสับปะรด จะช่วยย่อยโปรตีนให้เล็กลง เสริมการทำงานของลำไส้
ไธรฟ์ เวลเนส คลินิก ชวนทำความรู้จัก “โบรมีเลน” ทำงานอย่างไร กับการช่วยย่อยอาหารมื้อจัดหนัก
ชวนรู้จัก “โบรมีเลน” ในสับปะรด
โบรมีเลน (Bromelain) คือ เอนไซม์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จัดอยู่ในกลุ่ม Cysteine protease ที่พบได้ในสับปะรด โดยจะมีอยู่มากในแกนกลาง เนื้อ เปลือก และใบ
ทำไมจึงไม่ควรรับประทาน สับปะรด ตอนท้องว่าง? คำถามที่ถูกเตือนเมื่อคุณกำลังเลือกทานผลไม้ชนิดนี้ นั่นเป็นเพราะโบรมีเลนมีความเป็นกรด อาจทำให้ระบบย่อยอาหารเกิดการระคายเคือง จึงเหมาะกับการรับประทานหลังมื้ออาหาร เพราะมีฤทธิ์ช่วยในระบบการย่อยโปรตีน ที่ช่วยให้สารอาหารนั้นเล็กลงทำให้การทำงานของลำไส้ดูดซึมได้ง่ายขึ้น
โบรมีเลน ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และช่วยเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเซลล์มะเร็ง ช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย นอกจากนี้ยังถูกใช้ในอุตสาหกรรมการหมักอาหาร อย่างเช่น น้ำปลา เนื้อ ไวน์ น้ำผลไม้ รวมไปถึง การฟอกหนัง การทำผงซักฟอก อีกด้วย
ประโยชน์ดีๆ ของโบรมีเลนในสับปะรด
เสริมกระบวนการย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพ
มีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ
ช่วยลดอาการท้องผูก อาหารไม่ย่อย
ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหัวใจ
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ให้ทำงานอย่างเป็นปกติ
ทำไมร่างกาย จึงขาดเอนไซม์ไปไม่ได้
เอนไซม์ มีผลทางสุขภาพที่ช่วยให้เซลล์ทุกเซลล์สามารถดำเนินไปตามกลไกร่างกายได้ ทั้งการรับประทานอาหาร การนอนหลับ การเดิน ล้วนถูกใช้พลังงานจากเอนไซม์ที่ย่อยจากอาหาร ซึ่งได้รับจากผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์, เอนไซม์ภายในร่างกาย ที่ถูกสร้างจากตับอ่อน ที่ช่วยย่อยอาหารและดูดซึมอาหารเพื่อสร้างพลังงาน, เอนไซม์จากจุลินทรีย์ ที่ช่วยผลิตและเพิ่มจำนวนของเอนไซม์ เป็นต้น
ซึ่งเอนไซม์ ก็เปรียบได้กับแบตเตอรี่ เมื่อร่างกายถูกใช้งานไปเรื่อยๆ อายุมากขึ้น เอนไซม์ในร่างกายก็จะลดประสิทธิภาพลง ผลิตไม่เพียงพอต่อการย่อยสารอาหาร ทำให้ร่างกายอาจเกิดการอักเสบ ลำไส้แปรปรวน ดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี
นอกจากการเลือกรับประทานสับปะรด ที่มีเอนไซม์โบรมีเลนแล้ว การหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อดูแลระบบย่อยอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะลำไส้มีความสำคัญทั้งจากระบบย่อยอาหารและดูดซึม กำจัดสารพิษ ยังเกี่ยวพันกับระบบภูมิคุ้มกันที่คอยกำจัดเชื้อโรค เชื้อไวรัส แบคทีเรีย รวมถึงสัมพันกับระบบประสาทที่มีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเซโรโทนิน
ลดปัญหาอาหารไม่ย่อย ท้องอืด จากอาหารมื้อจัดหนักได้อย่างไร?
Thrive Wellness Clinic แนะนำตรวจสมดุลลำไส้ เพื่อหาเชื้อรา แบคทีเรีย ยีสต์ในลำไส้ ที่ตรวจพบได้ยาก ผ่านการตรวจเชิงลึก Urine Organic Test ให้ลำไส้ทำงานอย่างสมดุล ลดปัญหาเรื่องการขับถ่าย การย่อยอาหารที่ผิดปกติ รวมไปถึงระบบประสาทที่ทำงานผิดเพี้ยนไป ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำ Mental Health ร่วมกับการตรวจ IgG ภูมิแพ้อาหารแฝง ที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของลำไส้ อาการภูมิแพ้ และการตรวจระดับฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดเพี้ยน ที่อาจเกิดจากความเครียด ฮอร์โมนเพศแปรปรวน ผ่านแพ็กเกจ Hormone Check up
พร้อมวิธีการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้าน Anti-aging ที่เน้นการรักษาผ่านการปรับสมดุลลำไส้ สมดุลฮอร์โมน เน้นเสริมสร้างระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกายด้วย IV Drip Vitamin สูตรที่ออกแบบเพื่อการรักษาเฉพาะบุคคล เหมาะกับผู้ที่มีปัยหาเรื่องลำไส้ ภูมิแพ้ นอนไม่หลับ ปวดเมื่อย ลดความเสี่ยงจากการใช้ยาเคมี ที่อาจไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายและส่งผลกระทบต่อตับ
