HIFU ไฮฟู ยกกระชับ สร้างกรอบหน้า
WHAT IS HIFU? ไฮฟูคืออะไร
HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง โดยส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัว คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ เพื่อทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ให้ผลทางด้านลดเลือนริ้วร้อย ลดความหย่อนคล้อย เป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น มีความปลอดภัยสูงและไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก (เพราะไม่ใช่ laser และไม่ใช่คลื่นแสง) อีกทั้งคลื่นเสียงนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง ทั้งนี้จำนวนครั้งของการทำ HIFU ในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับปัญหาของรูปหน้าแต่ละคน ซึ่งควรจะต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะแก้ปัญหาได้และเห็นผลชัดเจน ใช้เวลาการทำประมาณ 30 – 50 นาที อีกทั้งจะเว้นระยะห่างจากการทำครั้งแรก 2 เดือน
เนื่องจากเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่จะเกิดขึ้นสมบูรณ์หลัง 3 เดือน และจะเห็นผลอย่างชัดเจนอย่างต่อเนื่องหลังการรักษาประมาณ 3 เดือน
ผลการรักษาจะอยู่ได้ต่อเนื่องประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ( ขึ้นอยู่กับสภาพผิวการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล)
จะใช้ได้ผลดีกับคนที่มีปัญหา ดังนี้
-
ผิวหย่อนคล้อย
-
หนังตาตก รวมทั้งขอบตาล่างหย่อนยาน
-
ริ้วรอยเหี่ยวย่น
-
ผู้ที่ต้องการจะมีใบหน้าเรียวขึ้นและผิวดูกระชับ
-
ลดความหย่อนยานบริเวณแก้ม แนวคิ้วดูยกขึ้น
-
ลดเลือนริ้วรอย
-
เพื่อนๆจะค่อยๆ เห็นผลการรักษา 3 เดือน เป็นต้นไป
ข้อดีของการทำ HIFU
เหมาะสำหรับใคร?
เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อยๆ อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ HIFU ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้ ผู้ที่ทำ HIFU จะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวขณะทำ ผิวจะไม่แสบร้อนและไม่ต้องใช้ยาชา เพราะเป็นคลื่นที่มีความถี่สูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้ผู้ที่เข้ารับการบริการไม่รู้สึกเจ็บหลังจากการทำ และสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง
*ข้อควรระวัง หลังการทำ HIFU อาจมีรอยแดงบ้างหลังการทำ ซึ่งก็พบแค่เพียงบางราย แต่จะหายไปได้เองภายใน 1 – 2 ชั่วโมง
วิธีการดูแลตัวเองหลังการทำ HIFU
ควรใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อบำรุงผิวที่เกิดขึ้นใหม่ให้คงอยู่ได้อย่างยาวนาน ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ แล้วหลีกเลี่ยงแสงแดด หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ นอกจากนี้ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง
HIFU บุฟเฟ่ต์
ทำไมถึงราคาแตกต่างกันมาก? ในปัจจุบันจะเห็นโปรโมชั่น HIFU แบบถูกมากๆตามสื่อต่างๆ เช่น 3,999 บาทไม่จำกัด shot แต่ข้อเท็จจริงคือหัวที่ยิง HIFU นั้นมีต้นทุนราคาตามจำนวน shot ที่ใช้ (เช่นเมื่อยิงครบ 20,000 shot ก็ต้องทิ้งแล้วซื้อหัวใหม่) จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ราคาถูกๆแล้วจะได้หัวยิงที่คุณภาพดีๆ การที่ราคาต่ำมากๆนั่นหมายถึง เกรดของเครื่องที่ด้อยลงตามราคาและหัวยิงที่พลังงานไม่คงที่ จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหลายๆคนไปทำ HIFU มาแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงหรืออยู่ได้ไม่นาน และเครื่อง HIFU ก็มีหลายเกรด