คลิกเลือกอ่านเนื้อหาที่สนใจ
...
ทำไมแอปเปิ้ลถึงมี 2 สี? ความแตกต่างของแอปเปิ้ลสีเขียว และสีแดงเป็นอย่างไร นอกจากรสชาติและความชอบแล้ว เราควรเลือกประโยชน์จากอะไรอีกบ้าง ในวันที่ต้องการสารอาหารให้ร่างกาย
ไธรฟ์ เวลเนส คลินิก พาส่องประโยชน์ของ แอปเปิ้ลแดง Vs แอปเปิ้ลเขียว
รู้จักสารอาหารในแอปเปิ้ล
ก่อนอื่นต้องรู้จักสารอาหารที่ร่างกายได้รับในแอปเปิ้ล 1 ลูก กันก่อน ที่ไม่ว่าจะเลือกสีไหนก็ได้ทั้งคู่
ในแอปเปิ้ล 1 ลูก จะอุดมไปด้วย คาร์โบไฮเดรต, สารต้านอนุมูลอิสระ Anthocyanin, Quercetin, Vitamin A, Vitamin C, Vitamin B1, Vitamin B2, Vitamin B6, Vitamin B9, Biotin, กรดแพนโทเธอนิค, เกลือแร่, คลอไรด์, เหล็ก, ทองแดง, แมกกานีส, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, โซเดียม, ซิลิคอน รวมถึงประโยชน์ที่ได้จากธรรมชาติ จึงเหมาะมากในผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะอิ่มท้องนาน พลังงานน้อย ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคลำไส้โรคหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 4 ลูกนะคะ
แอปเปิ้ลแดง
เหมาะกับผู้ที่ชอบรสหวาน กลิ่นหอม
เปลือกของแอปเปิ้ลแดงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอย เสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
ลดการอักเสบในร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความเครียด ป้องกันโรคมะเร็ง
มี Quercetin ใยอาหาร วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ และเบต้าแคโรทีน ที่สูงกว่า แอปเปิ้ลเขียว แต่มีปริมาณน้ำตาลที่มากกว่า
แอปเปิ้ลเขียว
เหมาะกับผู้ที่ชอบรสหวานอมเปรี้ยว ผิวกรอบ
แอปเปิ้ลเขียวจะมีไฟเบอร์สูงจึงดีต่อการขับถ่ายและลำไส้
ช่วยบำรุงผิวพรรณ ผิวเปล่งปลั่ง หนังศีรษะแข็งแรง ลดการเกิดฝ้า
ช่วยป้องกันไข้หวัด ลดการอักเสบในร่างกาย ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน บำรุงเส้นเลือดฝอย บำรุงจอประสาทตา เสริมสร้างข้อต่อและกระดูก
มีน้ำตาลน้อย Vitamin C และไฟเบอร์ที่สูงกว่าแอปเปิ้ลแดง จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะให้แคลอรี่น้อยกว่า
ไธรฟ์ แนะนำสำหรับผู้ที่ป่วยง่าย อยากบูสต์ร่างกายควรเลือกรับประทานแอปเปิ้ลแดง แต่หากขับถ่ายไม่ดี อ้วนง่าย อยากคุมน้ำหนัก เลือกทานแอปเปิ้ลเขียว หรือเลือกไม่ได้ก็เลือกรับประทานไปเลยทั้งแดงและเขียว เสริมประโยชน์แบบคูณ 2 ให้ดีต่อใจและผิวสวยไปเลยค่ะ
