หลายๆคนอาจจะกำลังเจอกับปัญหาหน้าหมองคล้ำแบบไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ดูแลร่างกายอย่างดีใช้ครีมบำรุงเป็นประจำแต่หน้ากลับดูไม่สดใส อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติหรือการใช้ชีวิตประจำวันแบบผิดๆ เช่น อยู่กับแสงแดดเป็นเวลานาน การใช้ครีมบำรุงบางชนิด สูบบุหรี่ ไปจนถึงความเครียด ที่ทำให้ใบหน้าของเราหมองคล้ำรวมไปถึงปัญหาผิวอื่นๆที่ตามมาอีกด้วย
หน้าดำ หน้าหมองคล้ำคืออะไร?
การที่ผิวหน้าของเราขาดความกระจ่างใส ขาดความชุ่มชื้น จนอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆตามมา เช่น เป็นสิว ผิวแห้ง มีริ้วรอย ซึ่งผิวหมองคล้ำสามารถสังเกตุได้จาก สีผิวไม่สม่ำเสมอ สีผิวหมองลง ไม่สดใส รวมไปถึงผิวไม่เรียบเนียน
สาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ
ความเครียด เมื่อเรามีความเครียดสะสมไปจนถึงความเครียดเรื้อรัง ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisal) ออกในจำนวนมากเพื่อมากำจัดความเครียด เป็นผลให้เกิดภาวะต่อมหมวกไตล้า ร่างกายเสื่อมรวมไปถึงแก่เร็ว ซึ่งความเครียดมีผลทำให้สภาพผิวของเราอ่อนแอ เกิดความไวต่อแสงแดดและยังส่งผลให้ผิวแห้ง จนเกิดสิวได้อีกด้วย
มลพิษทางอากาศ มีทั้งควันรถ ฝุ่น PM 2.5 มลภาวะเหล่านี้จะเป็นตัวมาทำลายความชุ่มชื้นของผิวเราให้ลดลง และทำให้ฝุ่นละอองขนาดแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังเราได้ง่าย และยังส่งผลให้เซลล์ผิวมีการเปลี่ยนแปลงจนก่อให้ผิวหน้าหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวมัน ที่สำคัญทำให้เกิดริ้วรอยตามมาอีกด้วย
ดื่มน้ำไม่เพียงพอ การดื่มน้ำน้อยดื่มน้ำไม่เพียงในแต่ละวันจะส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดลดลง ทำให้ผิวเราดูซีด หมองคล้ำ ไม่สดใส และยังมีแนวโน้มทำให้ผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น
พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือคุณภาพการนอนไม่ดี โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) จะไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทำให้ร่างกายขาดการฟื้นฟูและซ่อมแซม เมื่อเซลล์ต่างๆไม่ได้รับการซ่อมแซม จึงทำให้เกิดการสะสมเซลล์ผิวเสื่อมสภาพที่ถูกผลัดออกไม่ได้จำนวนที่เหมาะสม เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส เซลล์ผิวสูญเสียน้ำจนผิวไม่แข็งแรง และยังก่อให้เกิดสิว มีริ้วรอยอีกด้วย
การบำรุงผิวน้อยหรือมากจนเกินไป ผิวหน้าที่ถูกบำรุงน้อยจนเกินไปก็จะทำให้ผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งแตกลาย ผิวไม่เรียบเนียน ส่วนผิวหน้าที่ถูกบำรุงมากจนเกินไป อาจส่งผลให้ผิวหน้าหมองคล้ำเนื่องจากส่วนผสมบางชนิดอาจไม่ถูกกันและไปลดประสิทธิภาพของครีมบางตัวให้ทำงานลดลง เช่น ไม่ควรใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของเรตินอลกับ AHA/BHA เนื่องจากสารทั้งสองตัวนี้มีฤทธิ์เป็นกรดจะทำให้ผิวของเราบางลงและไวต่อแสงแดด Retinal ไวต่อแสงควรทาเฉพาะช่วงก่อนนอน หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน ออยบำรุง (Base OIL) ออยจะเป็นตัวดูดแสงแดดชั้นดีจึงไม่แนะนำให้ทาตอนกลางวันเพราะจะทำให้ผิวไวต่อแสงและหมองคล้ำได้ง่ายขึ้น
อายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้นระดับฮอร์โมนที่ลดต่ำลงและเสื่อมตามวัย คลอลาเจนภายในร่างกายจะผลิตได้น้อยลง พอคอลลาเจนผลิตไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ผิวของเราก็จะเริ่มมีริ้วรอย หย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น ขาดความชุ่มชื้น ก่อให้เกิดฝ้ากระบนใบหน้ารวมไปถึงความหมองคล้ำ
สูบบุหรี่ ในควันบุหรี่จะมีนิโคติน (Nicotine) และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ซึ่งจะเข้าไปทำลายออกซิเจนในผิว ส่งผลให้ใบหน้าหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้านหรือผิวมันมากกว่าปกติ ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ผิวหยาบกระด้าง ริมฝีปากดำคล้ำแห้ง และยังไปลดประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือดจนทำให้สารอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น
ความเครียดส่งผลต่อผิวหน้าอย่างไรบ้าง?
เป็นสิวง่ายผิวเสียความสมดุล เพราะเมื่อเรามีความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมาเยอะกว่าปกติ จนทำให้ผิวของเราเสียความสมดุล ขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้ง เมื่อมีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นร่างกายจะผลิตต่อมไขมันออกมามากกว่าปกติทำให้มีความมันบนใบหน้า และก่อให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น
หน้าหมองคล้ำ ความเครียดนอกจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายแล้ว ยังสามารถไปกระตุ้นเซลล์สร้างเม็ดสีซึ่งทำให้ใบหน้าของเราหมองคล้ำ ไม่สดใส ฝ้ากระเข้มขึ้น และทำให้ผิวไวต่อแสงแดดอีกด้วย
ผิวระคายเคืองและแพ้ง่าย เมื่อเรามีความเครียดสะสมเป็นเวลานานร่างกายเราจะหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนและฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้นจนเกินความจำเป็น ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีความอ่อนแอลง ส่งผลให้ผิวของเราอ่อนแอตามลงไปด้วย มักมีอาการผื่นแดง แพ้ง่าย ผิวอักเสบ
ผิวแก่ก่อนวัยและมีริ้วรอย เมื่อเกิดความเครียดมากๆความเครียดจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวเสื่อมลง จึงส่งผลให้ผิวแห้ง มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย
วิธีการดูแลรักษาผิวหน้าหมองคล้ำ
ทำความสะอาดผิวหน้า การล้างหน้าถือเป็นขั้นตอนแรกของการดูแลผิวหน้า เนื่องจากเราออกไปทำงาน ทำธุระ หรือใช้ชีวิตประจำวันภายนอกผิวหน้าเราจะเจอกับฝุ่นละอองและฝุ่นควัน รวมไปถึงเหงื่อระหว่างวัน ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรก การล้างหน้าจึงเป็นวิธีกำจัดสิ่งสกปรกพวกนี้ออกก่อนจะถึงขั้นตอนการบำรุงหน้า
บำรุงผิวหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูใบหน้าที่หมองคล้ำให้กลับมาสดใสและช่วยให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอขึ้นได้ อีกทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมเป็นเกราะป้องกันผิวได้อีกด้วยโดยการบำรุงผิวหน้าที่ง่ายที่สุด คือ การมาส์กหน้า ใช้เซรั่มหรือครีมบำรุง ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์
สครับผิวหน้า การล้างหน้าอาจช่วยล้างสิ่งสกปรกได้ก็จริงแต่อาจจะทำความสะอาดได้ไม่เกลี้ยงพอ การสครับหรือผลัดเซลล์ผิวจึงเป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้ใบหน้าของเราสว่างใส แต่การสครับผิวไม่ควรทำติดกันหลายๆวันและควรนวดเนื้อสครับลงบนผิวหน้าเบาๆ เนื้อสครับที่แนะนำคือ น้ำตาล เกลือ กากกาแฟ ที่สำคัญควรเลือกใช้ให้ตรงกับผิวหน้าของเรา
เสริมวิตามิน เพราะวิตามินมีส่วนช่วยบำรุงผิวของเราให้กลับมาสว่างสดใส ไม่หมองคล้ำได้เป็นอย่างดี วิตามินที่แนะนำ ซิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี3 เนื่องจากวิตามินเหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระและไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดการผลิตเม็ดสี รวมไปถึงป้องกันแสงยูวีที่มากระทบกับผิวของเราโดยตรงได้อีกด้วย
ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากแพทย์จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นรวมไปถึงการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรา เพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งในปัจจุบันการปรึกษาแพทย์สามารถเข้าถึงได้ง่ายไม่ยุ่งยาก สะดวก และปลอดภัย อย่างที่ ไธรฟ์ คลินิก มีบริการปรึกษาแพทย์ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยแพทย์ของเรายังเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน Wellness ที่สามารถตรวจหาสาเหตุช่วยวิเคราะห์และแก้ปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุด
หากใครที่มีใบหน้าดำหมองคล้ำโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ใช้ครีมบำรุงผิว ทานวิตามินก็ยังไม่ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้นเราะแนะนำ การตรวจฮอร์โมน เพราะจะช่วยให้ทราบถึงสาเหตุของความผิดปกติในร่างกาย เช่น อารการนอนไม่หลับ ผิวแห้ง ซึมเศร้า เป็นต้น โดยแพทย์จะช่วยปรับสมดุลให้กับฮอร์โมนในร่างกายให้กลับมาสมดุลอีกครั้ง
Comentários