top of page

Thrive Wellness Clinic

  • Facebook
  • YouTube
  • Instagram

ชั้น2 เดอะ คริสตัล เอกมัย-รามอินทรา 
เวลาเปิดทำการ 10:00 -19:00 

thrive-clinic.png

ปัญหาขอบตาดำคล้ำ อาจรุนแรงกว่าแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ

ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ นอกจากทำให้เสียบุคคลิกภาพ ทำให้ดูโทรม ป่วย แก่กว่าวัยแล้ว อาการขอบตาดำคล้ำอาจกำลังบ่งบอกถึง Health Status ด้วยก็ได้นะคะ


บริเวณรอบใต้ตาดำคล้ำ เป็นการสะท้อนถึงการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดฝอยของตา มีการคั่งค้าง อุดกั้น ไหลเวียนไม่สะดวก เมื่อเวลาผ่านไปการไหลเวียนยิ่งน้อยลง อาการดำคล้ำก็จะสังเกตได้มากขึ้น

สาเหตุของขอบตาดำ

ที่พบได้บ่อย


1. กรรมพันธุ์

หากสังเกตุดูคนในครอบครัวมีขอบตาดำคล้ำ

ก็อาจสรุปได้ว่าเป็นกรรมพันธุ์ที่ถูกถ่ายทอดมา อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นว่ารุ่นลูกรุ่นหลานทุกคนจะขอบตาดำคล้ำกันทุกคนนะคะ คนที่มีผิวขาวจะทำมห้เห็นคว่มดำคล้ำได้ชัดเจนกว่าคนผิวเหลือง น้ำตาล หรือผิวสีเข้ม ซึ่งสาเหตุนี้การรักษาและป้องกันอาจจะยากกว่าสาเหตุอื่นๆค่ะ

2. โรคภูมิแพ้

สาเหตุสำคัญของอากรขอบตาล่างคล้ำ (allergic shiner) เกิดจากการที่โพรงจมูกบวมมานาน เพราะมีหลอดเลือดฝอยคลั่งบริเวณโพรงจมูก และไซนัส จึงทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้ บางคนมีอาการคันหัวตา โดยไม่มีอากรแดง เพราะมันเกิดจากการที่เยื่อจมูกบวมมาก ทำให้ท่อน้ำตาที่อยู่ติดกันอักเสบ แล้วเกิดอาการคันมากที่หัวตา ดังนั้น สำหรับผู้ที่มีอาการขอบตาดำ จากการเป็นโรค ภูมิแพ้ ควรต้องแก้ไขที่ต้นเหตุจะดีที่สุดค่ะ


3. การเสียสมดุลของร่างกาย

คนส่วนใหญ่รู้ว่าคือขอบตาคล้ำจากการเสียสมดุลของร่างกาย เช่น การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย ทำให้การไหลเวียนของโลหิตไม่ดี สารอาหารในเลือดลดลง เส้นเลือดตีบทำให้เกิดความคล้ำ ร่างกายเหน็ดเหนื่อย เนื่องจากร่างกายจะถูกบังคับให้ผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล ในการตอบสนองต่อภาวะเครียดต่างๆ เพื่อทำให้เรารู้สึกตื่นตัว ซึ่งก็จะทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้นตามกัน


แต่แท้จริงแล้วอาการใต้ตาดำคล้ำเป็นอาการที่สะท้อนถึงความผิดปกติของร่างกายได้อีกมาก เช่น

การอ่อนล้าของระบบประสาทจากความเครียด อารมณ์ที่แปรปรวน การรับประทานอาหารเช่นของเย็น ในช่วงที่มีประจำเดือน


การรับประทานอาหารจำพวกแป้งและของหวานมากเกินไป จนทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญมีคาร์บอนไดออกไซด์มาก ทำให้เลือดดำคล้ำ การเจ็บป่วยเรื้อรังหรือสุญเสีพลังเรื้อรัง ภาวะความเป็นกรดมากขึ้น ซึ่งมีหลายปัจจัย เช่น อาหาร ยา สารพิษ โรคตับ โรคไต ภาวะสารแคลเซียมในร่างกายน้อย ภาวะตับและไตพร่อง



แพทย์แผนจีนพูดถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะภายในกับดวงตาไว้ว่า


“ตับมีทวารเปิดที่ตา” และ “พลังของไตจะขึ้นบนมากำกับความมีชีวิตชีวาของดวงตา”


ความผิดปกติของบริเวณดวงตา จึงเกี่ยวข้องกับตับและไต ตับเป็นที่สะสมเลือด ไตเป็นที่สะสมสารจำเป็นที่เรียกว่าจิง ถ้าเลือดและสารจิงมีความสมบูรณ์ครบถ้วน ดวงตาก็จะสดใส มีชีวิตชีวา ขอบตาจะไม่ดำคล้ำ ไตเป็นอวัยวะที่ให้พลังพื้นฐานแก่ร่างกาย และให้สารจิงเพื่อการสร้างความมีชีวิตชีวา ส่วนตับเกี่ยวข้องกับเลือด การบกพร่องของตับทำให้มีการอุดกั้นของเลือด การไหลเวียนไม่สะดวก


ในทางการแพทย์สมัยใหม่ คนไข้ที่มีภาวะของไตพร่องและการไหลเวียนของเลือดไม่ดี มักเกี่ยวข้องกับภาวการณ์แปรปรวนของระบบต่อมไร้ท่อ ฮอร์โมน ต่อมหมวกไต โรคหัวใจขาดเลือด และโรคที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของเลือดติดขัด โรคที่เกิดจากภาวการณ์สูญเสียพลังอย่างต่อเนื่องยาวนาน จะมีผลต่อการไหลเวียนของหลอดเลือดเล็กๆ ที่ปรากฏรอบๆ ดวงตา และเม็ดสีที่บริเวณนั้นด้วย



อีกทั้งกฎตามธรรมชาติซึ่งก็คือ วัยที่เพิ่มขึ้น ผิวหนังรอบดวงตาจะบางลง

เนื่องจากเราจะสูญเสียคอลลาเจน ทำให้ผิวส่วนนั้นดำคล้ำ



 

วิธีตรวจหาสาเหตุของอาหารขอบตาดำ

1. ดึงผิวหนังใต้ตาลงสัก 30 วินาที หากพบว่า สีคล้ำขึ้น ขอบตาดำอาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ หรืออายุที่มากขึ้น 2. สีไม่เปลี่ยน ขอบตาดำอาจมีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ อาการของโรคต่างๆ หรือสัมผัสแสงแดดมากเกินไป การรักษาภาวะของขอบตาดำคล้ำ จะต้องพิจารณาถึงภาวะองค์รวมของร่างกาย และให้การรักษาร่างกาย จิตใจ ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันด้วยนะคะ

Comments


bottom of page